ในโลกที่ความสำเร็จมักถูกวัดด้วยรางวัล เกียรติยศ หรือชื่อเสียง “ซอ ออง ทุน” (Saw Aung Htun) นักศึกษาหนุ่มจากเมียนมา กลับเชื่อมั่นว่าความดีและความเมตตา คือสิ่งที่สร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับชีวิต เขาเป็นหนึ่งในนักศึกษาไม่กี่คนที่ได้รับรางวัล “คนดีศรีรังสิต” ประจำปี 2025 ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดของมหาวิทยาลัยรังสิต ที่มอบให้กับนักศึกษาผู้มีคุณธรรมและเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม

Mr.Saw Aung Htun นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า หลักคิดที่ยึดถือสำหรับการดำเนินชีวิต ผมมองว่าความรักและความเมตตา เป็นเรื่องสำคัญ ชีวิตที่ดีไม่ได้วัดจากทรัพย์สินหรือรางวัล แต่จากความรักและความเมตตาที่เรามอบให้คนอื่น เมื่อเราจากไป ไม่มีใครจำได้ว่ามีเงินเท่าไหร่ แต่เขาจะจำหัวใจของเราได้ อย่าหยุดทำดี แม้ไม่มีใครเห็น

“รางวัล คนดีศรีรังสิต ยังเปลี่ยนมุมมองของผมให้ตระหนักถึงบทบาทใหม่ในฐานะต้นแบบของเพื่อนนักศึกษา มันทำให้ผมรู้สึกถึงความรับผิดชอบมากขึ้น ต้องรักษาความดีที่สร้างมา และเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นเช่นกัน บ่อยครั้งที่งานอาสาอาจดูเหมือนไม่มีใครเห็นหรือไม่ได้รับคำชื่นชม แต่จงอย่าหยุดทำดี เพราะทุกการกระทำของคุณมีคุณค่า แม้จะไม่มีเสียงปรบมือ คุณก็จะได้รู้ว่าคุณค่าที่แท้จริงอยู่ในใจของคุณเอง เมื่อเราทำความดีด้วยหัวใจ ผลลัพธ์อาจไม่เกิดขึ้นทันที แต่จะสะท้อนกลับมาอย่างงดงามในวันหนึ่งแน่นอน เส้นทางของการเข้าใจ และ ยึดมั่นสำหรับการเป็นจิตอาสา กว่า 7 ปีที่ผมอุทิศเวลาให้กับงานอาสาสมัคร ใช้เวลาสัปดาห์ละ 8 ชั่วโมง สอนหนังสือให้กับองค์กรต่าง ๆ เช่น Sophia Learning Club, Apricity และ Future Bright โดยไม่คิดค่าตอบแทน ผมเชื่อว่าความพยายามเล็ก ๆ แต่ต่อเนื่องสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้จริง เด็กบางคนที่ผมสอนตอนนี้ได้ทุนไปเรียนต่อที่อินเดีย และประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจมาก แม้จะมีภาระการเรียนที่หนักในหลักสูตรวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ ผมก็ยังคงรักษาเจตนารมณ์เดิมไม่เปลี่ยนครับ ผมมองว่าการเรียนรู้ไม่ควรถูกจำกัดด้วยฐานะ เงินไม่ควรเป็นอุปสรรคของคนที่ตั้งใจจริง ผมจึงตั้งใจสำหรับการทำจิตอาสาสอนหนังสือฟรีเพื่อให้ความรู้เข้าถึงคนที่ต้องการจริง ๆ”

สำหรับการตั้งเป้าหมายด้านการศึกษา ผมอยากเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ในเชิงลึก อยากจะศึกษาต่อด้าน เวชศาสตร์เขตร้อนและโรคติดเชื้อ (Tropical Medicine and Infectious Diseases) และตั้งใจจะทำงานวิจัยเพื่อช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่ห่างไกลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“ผมอยากเชื่อมความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ากับการบริการจริง เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย ผมเชื่อว่าวิทยาศาสตร์ไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่ในห้องแล็บ แต่ควรถูกนำออกไปใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะผู้ที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข การทำงานวิจัยที่สามารถต่อยอดไปสู่การปฏิบัติได้จริง เป็นสิ่งที่ผมอยากทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ เพราะสุดท้ายแล้วความรู้ จะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมันสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ใครบางคนได้จริง ๆ”
*************





ใส่ความเห็น