ในโลกของเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็ว การยืนหยัดและเติบโตในธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ “ชูเดช ลาภนิมิตชัย” หรือ “พี่เกีย” ศิษย์เก่าคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เจ้าของบริษัทโกลเด้น แคคตัส จำกัด ที่ปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการด้านบัญชีและภาษี อีกทั้งยังเป็นเจ้าของธุรกิจโครงการบ้าน The Unique Ratchaburi นับเป็นหนึ่งในบุคคลตัวอย่างของผู้ที่นำความรู้จากรั้วมหาวิทยาลัยมาพัฒนาและต่อยอดชีวิต ผู้สร้างแรงบันดาลใจผ่านการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง

จากเด็กเศรษฐศาสตร์ สู่เส้นทางที่ค้นพบตัวตน

          พี่เกียเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของการเลือกเรียนเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต ด้วยรอยยิ้มว่า “ผมชอบคณิตศาสตร์ แต่ไม่ถนัดวิทยาศาสตร์ เลยหันมาสนใจทางการด้านเศรษฐกิจและการเงิน เพราะมันตอบโจทย์เรามากกว่า” ฟังดูเรียบง่าย แต่เบื้องหลังการตัดสินใจ คือการที่เขารู้จักตัวเองและเลือกเดินบนเส้นทางที่เหมาะกับความชอบ หลังเรียนจบเกียได้ประสบการณ์มากมายจากการช่วยธุรกิจที่บ้านและการเปิดธุรกิจร้านอาหารของตนเอง เมื่อชีวิตเจอเรื่องราวใหม่ ๆ อยู่เสมอ เขาจึงพบแรงบันดาลใจที่ทำให้ใจเต้นอีกครั้งจากเหตุการณ์เล็ก ๆ ที่เป็นเส้นทางสู่สายอาชีพด้านการเงินอย่างจริงจัง เกียร์มีโอกาสได้ศึกษาและต่อยอดในด้านการขายประกัน จนเขาเติบโตเป็นนักวางแผนการเงินที่เชื่อมโยงความรู้จากเศรษฐศาสตร์เข้ากับการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจได้อย่างลึกซึ้ง

          “ตอนนั้นเปิดธุรกิจร้านอาหาร มีลูกค้ามาเข้ามาทาน และแนะนำขายประกันให้กับเรา จึงมีโอกาสได้รู้จัก ได้เรียนรู้เรื่องการเงินจากตรงนั้นเพิ่มเติมด้วย ดูสนุก แปลกใหม่ เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานในสายอาชีพที่รัก”

สร้างบริษัทที่ไม่เพียง “ครบวงจร” แต่ “เข้าใจ”

          เมื่อได้ประสบการณ์มากขึ้น เกียมองเห็นช่องว่างในตลาดที่ยังไม่มีบริษัทให้คำปรึกษาทางการเงินแบบครบวงจร จึงก่อตั้งบริษัทของตัวเองขึ้นมา สิ่งที่เป็นหัวใจของความสำเร็จนี้ไม่ใช่เพียงความรู้ทางเทคนิค แต่คือ “การเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง” เพราะความใส่ใจทำให้ลูกค้าหลายรายกลับมาใช้บริการซ้ำ และบอกต่อด้วยความไว้วางใจ       “ลูกค้าหลายคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องการอะไร เราต้องฟัง ต้องคุย ต้องเข้าใจธุรกิจของเขา แล้วออกแบบแผนการเงินที่เหมาะสมให้สามารถใช้ได้จริง โดยเรารวมทุกอย่างไว้ด้วยกัน ทั้งภาษี การลงทุน การหาทุน และประกันภัย เพื่อให้ลูกค้าสามารถได้คำตอบในที่เดียว”

ก้าวสู่เวทีธุรกิจอสังหาฯ พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม

          นอกจากธุรกิจการเงิน เกียยังขยายสู่สายงานด้านอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยี จากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาเกียเป็นคนที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตนเอง เริ่มตั้งแต่ช่วยที่บ้านทำธุรกิจก่อสร้าง เขาพยามเรียนรู้ ศึกษาหาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เป็นความโชคดีที่ธุรกิจด้านการเงินทำให้เขามีโอกาสได้ปรึกษาพูดคุยกับหลาย ๆ องค์กร จนได้แนวคิดและเกิดความสนใจในการลงทุนธุรกิจอสังหาฯขึ้นมา เพราะเขารู้สึกว่าเรื่องของการอยู่อาศัยสามารถพัฒนาต่อไปได้อีก

          “ผมเชื่อว่าเรื่องการอยู่อาศัยของคนสามารถพัฒนาได้อีกมาก ตอนนี้เราพัฒนา Smart Home ที่เชื่อมต่อระบบทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทั้งกล้อง ระบบล็อก ประตู และสัญญาณกันขโมย ผ่านเทคโนโลยี Automation” เขาเล่าด้วยแววตาเปี่ยมพลัง สำหรับเกียร์การพัฒนานวัตกรรมไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือ “การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน”

บทเรียนจากรั้วมหาวิทยาลัย

          เมื่อถามถึงสิ่งที่ได้จากรั้วมหาวิทยาลัยรังสิต เกียตอบอย่างไม่ลังเล “สิ่งที่ผมได้มากที่สุดคือการเรียนรู้ชีวิตและการทำงานเป็นทีม รุ่นผมเรียนกันเป็นกลุ่ม ช่วยกันคิด ช่วยกันจบ มันกลายเป็นพื้นฐานสำคัญของการทำงานทุกวันนี้” เขาเชื่อว่าเศรษฐศาสตร์ไม่ใช่แค่การเข้าใจตัวเลข แต่คือ “การเข้าใจชีวิต” การมองภาพรวม เห็นความเชื่อมโยงของสิ่งต่าง ๆ และนำมาวางแผนเพื่อสร้างคุณค่าในโลกแห่งความเป็นจริง

รีเฟรชชีวิตอยู่เสมอ”

          เมื่อถามถึงหลักคิดในการใช้ชีวิต เกียตอบอย่างเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง “ผมชอบปุ่มรีเฟรชครับ เวลากดแล้วมันเหมือนได้กลับมาเริ่มต้นใหม่เสมอ ไม่ว่าเราจะเจออะไร กดรีเฟรช แล้วกลับมายืนตรงนี้อีกครั้ง เริ่มใหม่อย่างเต็มที่” นั่นคือเคล็ดลับที่ทำให้เกียร์ยังคงยืนหยัด พัฒนา และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่เสมอ โดยเฉพาะกับน้อง ๆ เศรษฐศาสตร์ ที่กำลังจะก้าวออกไปใช้ความรู้ สร้างเส้นทางของตัวเองในโลกความเป็นจริง เพราะในชีวิตจริงไม่มีใครที่ไม่ล้ม แต่สิ่งสำคัญคือ “เราต้องรู้จักรีเฟรช แล้วลุกขึ้นอีกครั้ง ด้วยหัวใจที่พร้อมเรียนรู้เหมือนวันแรกเสมอ”

******************************************


ค้นพบเพิ่มเติมจาก Sabaidee Thailand

สมัครสมาชิกเพื่อรับเรื่องล่าสุดที่ส่งไปยังอีเมลของคุณ.

ใส่ความเห็น

ค้นพบเพิ่มเติมจาก Sabaidee Thailand

สมัครสมาชิกตอนนี้เพื่ออ่านต่อและเข้าถึงคลังเก็บทั้งหมด.

อ่านต่อ