ขณะที่โลกแห่งการทำงานกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากภูมิรัฐศาสตร์ที่พลิกโฉม และการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีรวมถึง AI ที่เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญ …วิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการจัดการศึกษาใหม่ภายใต้แนวคิด “Impact Based Education” ที่เน้น การเรียนรู้จากประสบการณ์จริง (Learning Through Real-World Experience) เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของบัณฑิต ให้พร้อมต่อโลกแห่งความเป็นจริงตั้งแต่วันแรก  

          รองศาสตราจารย์ นันทชัย ทองแป้น คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า “โจทย์สำคัญของบัณฑิตจบใหม่ยุคศตวรรษที่ 21 มีอยู่สองประการ ได้แก่
          (1) ภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เปลี่ยนไป ซึ่งจากยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization) ที่โลกเชื่อมโยงได้ กลายเป็นโลกที่กติกาอ่อนแรง (Rule of the Jungle) และ
          (2) การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ AI ที่สามารถทดแทนบทบาทของแรงงานระดับ Operations หรือ Entry-Level ซึ่งเคยเป็นหน้าที่ของบัณฑิตจบใหม่”

          นอกจากนี้ในองค์กรยุคใหม่ โครงสร้างแรงงานที่เคยเป็นพีระมิด (Pyramid) – ที่ส่วนใหญ่เป็น Junior-level – กำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบรูปเพชร (Diamond) ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นระดับ Middle-level แทน บัณฑิตจบใหม่ที่จบจากระบบการศึกษายังสิ่งเดิมซึ่งเตรียมไว้สำหรับงานระดับเริ่มต้นอาจประสบกับความท้าทายอย่างหนัก เพราะงานระดับ Entry Level ซึ่งเป็นพื้นที่ฝึกประสบการณ์ที่เคยเปิดกว้าง กำลังถูก AI เข้ามาแทนมากขึ้น โอกาสในการเริ่มงานที่ “เรียนจบแล้วเริ่มต้นจากล่าง” เพื่อนำประสบการณ์มาเติบโตในองค์กร อาจลดน้อยลง หากบัณฑิตไม่ได้ถูกเตรียมไว้ให้ “พร้อมทำงานจริง” ตั้งแต่เริ่ม – ก็อาจเสียเปรียบตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่งขัน

          วิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ จึงออกแบบหลักสูตรและกระบวนการจัดการศึกษาตามดำริของท่านดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ที่มุ่งไปสู่ 4 ประการสำคัญ ได้แก่ 1. แข่งขันได้ (Competitiveness) – บัณฑิตต้องทำงานได้ทันที และเหนือกว่า 2. เป็นมหาวิทยาลัยอิเล็กทรอนิกส์ (e-University) – ผสมผสานแพลตฟอร์มดิจิทัลและรูปแบบการเรียนรู้ที่ทันสมัย 3. มีความเป็นนานาชาติ (Internationalization) – เปิดโลก เปิดโอกาสสู่เวทีสากล 4. พร้อมต่อโลกแห่งความเป็นจริง (Readiness for the Real World) – เรียนรู้จากโครงการจริง งานจริง พัฒนาในบริบทจริง

          หลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์ทั้งระดับปริญญาตรี-โท-เอก ที่ดำเนินมาเข้าสู่ปีที่ 25  ได้รับการปรับปรุงในปี การศึกษา 2568 เพื่อให้เหมาะสมกับโลกที่บทบาทงานและการแข่งขันเปลี่ยนแปลงไป วิทยาลัยฯ ได้ยึดแนวทาง “เรียนรู้จากประสบการณ์จริง” (“Learning Through Real-World Experience”) เพื่อให้ผู้เรียนได้เผชิญโจทย์จริง ทำงานจริง และคิดแก้ปัญหาจริง ตั้งแต่ปีแรกของการศึกษา ผ่านโมเดลนี้ นักศึกษาจะได้รับโอกาสตั้งแต่เริ่มต้น โดยทำงานกับเครื่องมือและเทคโนโลยีทางการแพทย์จริง, รู้และมีทักษะจริงและเข้าใจบริบทของเทคโนโลยีใหม่ เช่น AI, Big Data ที่กำลังเปลี่ยนโฉมวงการวิศวกรรมชีวการแพทย์, ได้สัมผัสโครงการร่วมกับภาคอุตสาหกรรม หรือชุมชนเพื่อสร้างผลกระทบจริง

          เมื่อบัณฑิตมี ความสามารถในการแข่งขัน และ พร้อมออกไปทำงานในระดับ Middle-level ตั้งแต่วันแรก … นั่นหมายถึงการได้เปรียบ – ไม่ใช่รอให้โอกาสมาให้ แต่เป็นการ “ยืนอยู่ในสนามได้ทันที” พร้อม “พุ่งทะยานได้ทันเวลา”

          สำหรับผู้ปกครองและนักเรียนที่กำลังมองหาทางเลือกการศึกษาที่พร้อมนำส่งสู่โลกการทำงานและการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง …วิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต คือคำตอบที่ไม่เพียง “เรียนจบ” แต่ “จบพร้อมทำงาน” และ “จบพร้อมแข่งขัน” คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ ม.รังสิต กล่าวปิดท้าย

**********************************************


ค้นพบเพิ่มเติมจาก Sabaidee Thailand

สมัครสมาชิกเพื่อรับเรื่องล่าสุดที่ส่งไปยังอีเมลของคุณ.

ใส่ความเห็น

ค้นพบเพิ่มเติมจาก Sabaidee Thailand

สมัครสมาชิกตอนนี้เพื่ออ่านต่อและเข้าถึงคลังเก็บทั้งหมด.

อ่านต่อ