หากพูดถึงตัวแม่แห่งวงการบันเทิง คงขาดเธอไปไม่ได้ “ชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต” กับวลีเด็ดที่เป็นกระแสโซเชียล “แม่ก็คือแม่” ที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ความสามารถรอบด้านทั้งการแสดง พิธีกร เดินแบบ จนได้รับฉายาเจ้าแม่พรมแดงแห่งเมืองคานส์ เรียกได้ว่า เธอโดดเด่นจนกลายเป็นขวัญใจสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ เรื่องราวชีวิตและประสบการณ์การทำงานที่ยาวนานเป็นเรื่องที่น่าจดจำ วันนี้ชมพู่ให้โอกาสพูดคุยย้อนวัยเยาว์ถึงจุดเริ่มต้นก่อนจะเป็นแม่ชมที่ทุกคนรู้จัก พร้อมอัปเดตชีวิตฉบับตัวแม่ตัวมัมให้แก่พวกเราในวันนี้

ชมพู่ เล่าให้ฟังว่า เธอเข้าสู่วงการบันเทิงในช่วงวัยมัธยมปลาย เริ่มต้นจากการถ่ายโฆษณาเล็ก ๆ ก่อนได้รับโอกาสเป็นนักแสดงแบบเต็มตัว เซ็นสัญญากับค่ายดาราวิดีโอ ช่อง ๗ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย ในตอนนั้นคุณกบ สุวนันท์ เป็นไอดอลสาวสวยที่เธอชอบและติดตาม ทำให้ตัดสินใจเลือกศึกษาต่อที่เดียวกันในมหาวิทยาลัยรังสิต วิทยาลัยศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ซึ่งนับว่าเป็นรุ่นแรกอีกด้วย

“ช่วงที่ชมเข้ามหาวิทยาลัย เป็นช่วงที่กำลังเริ่มต้นในอาชีพการเป็นนักแสดง เป็นโฟกัสของชมในตอนนั้นอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตนักศึกษาได้เต็มที่มากนัก ทำงานด้วยเรียนไปด้วย จึงเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เวลาเข้าเรียน เวลาอ่านหนังสือน้อยกว่าเพื่อนคนอื่น เราจึงมีความรับผิดชอบที่มากกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน ฝึกให้เรารู้จักแบกรับอะไรตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เรามีความถึก ทนค่ะ”

สำหรับชมพู่ ช่วงเวลาในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นก้าวแรกที่เริ่มเรียนรู้ชีวิตวัยผู้ใหญ่ แม้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานนัก แต่นับว่าเป็นการได้ฝึกทั้งเรื่องการเรียนและการทำงาน อีกอย่างหนึ่งที่ค้นพบคือ ชมพู่ชอบเรียนและศึกษาวิชาจิตวิทยา เธอรู้สึกสนุก และตัดสินใจกลับมาศึกษาต่ออีกครั้งในหลักสูตรปริญญาโท คณะจิตวิทยา

ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง กลไกหรือระบบการทำงานมีการปรับเปลี่ยน รวมถึงในวงการบันเทิงก็เช่นกัน เมื่อแพลตฟอร์มหรือช่องทางในการรับชมเพิ่มมากขึ้น สื่อออนไลน์เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย อาชีพของนักแสดง พิธีกร ก็ต้องมีการเรียนรู้เพื่อปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย แม้แต่ซุปตาร์ ที่มากความสามารถอย่างชมพู่

“ชมว่าต้องปรับเยอะ เพื่อที่จะยังอยู่ในวงการบันเทิง บางครั้งต้องยอมรับความจริงอันเจ็บปวดที่ว่า การตั้งใจทำงาน นิสัยดี มารยาทดี ไม่มาสาย โฟกัสกับงานอย่างเดียว แล้วมันจะแปลว่า Stay on Top (อยู่ในจุดสูงสุด) ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่มัน Sad But True (เป็นเรื่องจริงที่น่าเศร้า) โดยเฉพาะตอนนี้คนไม่ได้รอดูละครจากแพลตฟอร์มเดียวอีกต่อไป แต่คนดูสามารถเลือกดูคอนเทนต์อะไรก็ได้ที่มีมากมายมหาศาลในโลกนี้เพราะฉะนั้นการแย่งชิงความสนใจของคน หรือการที่จะบอกให้คนมาดูฉันสิ มันไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว วิธีการต้องเปลี่ยนไป ชมว่าเราต้องลองเปิดใจ และทำความเข้าใจกับโลกที่เปลี่ยน แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันต้องเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองเป็นโก๋แก่จนเด็กมันหัวเราะ ใช้การเปิดใจมากกว่า เปิดหู เปิดตา อย่ายึดติดกับอะไรเดิม ๆ”

หลังจบการศึกษา ชมพู่เฉิดฉายในวงการบันเทิงและวงการนางแบบค่อนข้างมาก มีผลงานด้านการแสดงให้ได้รับชมอย่างต่อเนื่อง ทว่าหลังเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนหนุ่มนักธุรกิจ และให้กำเนิดลูกชายฝาแฝด เธอให้ความสำคัญกับการสร้างครอบครัวมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีลูกสาวคนเล็ก ที่เรียกได้ว่ากระแสความน่ารักมาแรงไม่แพ้แม่ชมอีกด้วย

“ชมโฟกัสกับลูกมากที่สุด งานในวงการก็ยังทำอยู่ แต่คงไม่ได้หักโหมเท่าเมื่อก่อน สลับกับการทำธุรกิจส่วนตัว แต่ว่าหลัก ๆ ก็เป็นเรื่องครอบครัวที่ให้ความสำคัญในช่วงนี้ พอมีลูกรู้เลยว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่า ชมว่าคีย์หลัก ๆ คือ การจัดลำดับความสำคัญในชีวิตว่าเราให้คุณค่ากับอะไรมากที่สุด รวมถึงร่างกายเราเองก็คือ กลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนทุกอย่างไปได้ เราใช้พลังงานไปกับอะไร มันก็จะรีเทิร์นกลับมาเป็นสิ่งนั้น เพราะฉะนั้นต้องเลือกให้ฉลาดว่าเราจะใช้พลังงานของเราไปกับอะไร”

ตลอดการเติบโต ทั้งในวงการบันเทิงและการใช้ชีวิตของชมพู่ อาจมีช่วงที่เหนื่อยล้าไปบ้าง หลังจากนี้สิ่งที่ชมพู่ให้ความสำคัญมากที่สุดคือ การเลี้ยงดูลูกตัวน้อย ๆ ของเธอให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ความท้าทายของชมพู่หลังจากนี้คงเป็นการบาลานซ์ทุกมิติของชีวิตให้ออกมาดีที่สุด แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์แบบไปทั้งหมด อาจมีวันที่ขรุขระไม่ได้ดั่งใจ แต่เชื่อได้เลยว่าเรื่องราวที่ดำเนินต่อไปของชมพู่จะสวยงาม ยังคงเป็นซุปตาร์ในดวงใจของแฟนคลับทุกคน พิสูจน์ได้จากผลงานที่เธอทำให้เห็นตลอดมา

**************************


ค้นพบเพิ่มเติมจาก Sabaidee Thailand

สมัครสมาชิกเพื่อรับเรื่องล่าสุดที่ส่งไปยังอีเมลของคุณ.

ใส่ความเห็น

ค้นพบเพิ่มเติมจาก Sabaidee Thailand

สมัครสมาชิกตอนนี้เพื่ออ่านต่อและเข้าถึงคลังเก็บทั้งหมด.

อ่านต่อ