
วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมประดิษฐ์จองคำ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดประชุมและเป็นประธานการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภอปาย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ จำนวนมาก โดยที่ผ่านมามีกรณีที่มีผู้ร้องเรียน และได้ถูกนำเสนอเป็นข่าวในโซเชียลมีเดียและเพจข่าวต่าง ๆ จากกรณีที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พบปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตลอดจนเกิดข้อวิพากษ์ในสังคมว่าอาจเกิดการแย่งอาชีพของคนไทย รวมทั้งปัญหาต่าง ๆ นั้น

นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ทราบประเด็นปัญหาจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นระยะ และสืบเนื่องจากที่ผ่านมามีภารกิจจำนวนมาก โดยการประชุมในครั้งนี้นับเป็นโอกาสดีที่จะได้นำประเด็นปัญหามาหารือร่วมกันในการวางแนวทางมาตรการการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งในมิติของสังคมวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และด้านเศรษฐกิจ ให้มีความต่อเนื่องและเกิดความสมดุล เนื่องจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดเมืองน่าเที่ยว (เมืองรอง) ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมากกว่าหนึ่งล้านคนในแต่ละปี และมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวผู้เยี่ยมเยือนมากกว่าจำนวนประชากร 3-4 เท่า สามารถสร้างรายได้จากภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60 % ของรายได้ประชากร หรือมีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประมาณ 7.5 พันล้านบาท ในปี 2567 และมีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 35-40 % ดังนั้น จึงมีผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ซึ่งทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้มีการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการประชุมนี้จะเป็นการรวบรวมประเด็นปัญหา พร้อมกำหนดแนวทางแก้ไข ตลอดจนมาตรการที่เป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรม
โดยในที่ประชุมมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย
- นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน
- นายผะอบ บินสะอาด ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน
- พ.อ. ภูมิรัชต์ ดุษฎี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน (ฝ่ายทหาร) ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน
- พ.ต.อ. ทรงกริช ออนตะไคร้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ร.ท. ยุทธนา ภูพลผัน ผู้แทนผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท
- นายสมบัติ ดุลยรัตน์ ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน
- นางจารุณี จันทร์เจนจบ ผู้แทนหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- นายเอกวุฒ ชุมวรฐายี พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- นางสาววริชญา ชะอุ่ม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน
- นางสาวณัฏธ์นลี นิลไพบูลย์ ผู้แทนหน่วยงานแรงงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน
- นายภูรีภัทร พิพัฒน์พงศธร ปลัดอาวุโสอำเภอปาย ผู้แทนนายอำเภอปาย
- พ.ต.อ.สำเร็จ สามสีทอง ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรปาย
- ร.ต.อ.วิทยา มีศรี ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 336
- พ.ต.ท.วิชัย ปันนา สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน
- พ.ต.ท. สุวิทย์ บุญยะเพ็ญ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน
- นางบรรจงจิต จันทร์นวล ผู้แทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลปาย
- ว่าที่ ร.ต. ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน
- นายสุระศิลป์ เนตรผาบ ขนส่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน
- นางอัญชลี ใจแปง นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน
- นางชลนที ศรีมูล พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
- นางสาววราพร กลางถิ่น นักวิเคราะห์นโยบายและแผน สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน
- นางสาวธนพร หมุดดี เจ้าหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือนักท่องเที่ยว TAC
- นายจตุรภณ พัฒนาชาติเจริญกุล พนักงานสนับสนุนด้านความปลอดภัย สนง.ขนส่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ซึ่งในที่ประชุมสรุปว่ามีประเด็นปัญหาใหญ่ ๆ มีจำนวน 5 เรื่อง ได้แก่
1.) การเช่ารถ การขับขี่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร รวมทั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ถอดเสื้อ จอดรถคุยกันบนถนน ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ ไม่สวมใส่หมวกนิรภัย ซึ่งพบว่าเกิดอุบัติเหตุ มากกว่า 300 ครั้ง ประเด็นดังกล่าวพบว่ากฎหมายบางเรื่องยังไม่ข้อมูลจำเพาะ ต้องใช้กฎหมายอื่นเทียบเคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวบางส่วนก็มีพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการกวดขัน ตรวจตรา ดำเนินคดี รวมทั้งให้ความรู้กับผู้ประกอบการถึงแนวทางการปฏิบัติ แนวทางการคัดเลือกลูกค้า ให้เป็นไปตามเกณฑ์ เช่นต้องมีใบอนุญาตขับขี่ และมีทักษะการขับขี่รถได้ดี ซึ่งในที่ประชุมได้มอบหมายให้ทางขนส่งจังหวัด ร่วมทั้งหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย กำหนดมาตรการรวมทั้งการบังคับใช้กฎหมาย โดยใช้มาตรการที่เหมาะสมตามแนวทางเบาไปหาหนัก เพื่อไม่ให้กระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้รถใช้ถนน
2.) การเข้ามาทำงานหรือแย่งอาชีพคนไทย จากการติดตามของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ยังไม่พบว่ามีการเข้ามาทำงานในลักษณะการแย่งอาชีพของคนไทย สำหรับข้อมูลการจดทะเบียนพาณิชย์พบว่าเป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับของกฎหมาย และยังไม่พบว่ามีคนชาติชาติถือหุ้นหรือดำเนินกิจการมากกว่า 45 % ประกอบกับชาวต่างชาติไม่มีสิทธิ์จดทะเบียนพาณิชย์ได้ ซึ่งมีเพียงกาดเสาร์หรือกาดฝรั่ง (ตลาดนักท่องเที่ยว) ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด -19) เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของพื้นที่โดยมีชาวต่างชาติที่พักอาศัยในพื้นที่ออกมาทำกิจกรรม และมีตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งของ กรณีนี้ ได้มีการห้ามชาวต่างชาติจำหน่ายสิ่งของ ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2568 โดยเด็ดขาด สำหรับอาชีพอื่น ๆ เช่น การเล่นดนตรี ไม่มีการจ้างชาวต่างชาติมาเล่นดนตรี พบว่ามีเพียงการขึ้นมาร่วมแสดงความสามารถเป็นบางครั้งและไม่ได้รับค่าจ้าง โดยในที่ประชุมได้มีมติให้หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานด้านความมั่นคง สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หมั่นตรวจสอบ และให้ความรู้ด้านกฎหมายกับผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสังเกตการณ์ในด้านอาชีพอื่น ๆ ด้วย
3.) การสูบกัญา เป็นประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นิยมเสพกัญชาในลักษณะการสูบแบบบุรี่แบบไม่เลือกสถานที่ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และอาจส่งผลต่อสุขภาพของคนทั่วไป โดยพบว่าในพื้นที่อำเภอปายมีการขอใบอนุญาตจำหน่ายกว่า 90 แห่ง ในที่ประชุมได้มอบหมายให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้มีการตรวจตรา เฝ้าระวัง รวมทั้ง ให้ความรู้ด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว สร้างความตระหนักและรับผิดชอบต่อสังคม และโทษของการเสพสิ่งมึนเมาต่าง ๆ
4.) การประพฤติตนไม่เหมาะสมในกิจกรรมการล่องห่วงยาง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ การแต่งกายไม่มิดชิดหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมทางน้ำ การจัดปาร์ตี้ส่งเสียงดังระหว่างทำกิจกรรมล่องห่วงยาง ซึ่งกิจกรรมล่องห่วงยางแม่น้ำปายมีมานานแล้ว แต่เพิ่งจะเป็นกระแสโด่งดังตั้งแต่ ททท. โปรโมท ร่วมกับกิจกรรมข้าวเหนียวมะม่วง เมื่อปี 2565 และได้มีการประชุมหน่วยงาน ผู้เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการกำหนดข้อตกลงร่วมกัน เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ณ สถานีตำรวจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน (อ.ปาย) ดังนี้ 1.) ผู้ประกอบการต้องมีใบอนุญาตประกอบการนำเที่ยว จากสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 2.) ผู้ประกอบการจะมีการลงทะเบียนไว้ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน 3.) ผู้ประกอบการต้องควบคุมไม่ไหม้มีการจำหน่ายจ่ายแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 4.) ผู้ประกอบการต้องจัดเจ้าหน้าที่ดูแลนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 12 ต่อ 1 คน 5.) ผู้ประกอบการต้องมีเสื้อชูชีพหรืออุปกรณ์ชูชีพให้เพียงพอ หากพบว่ามีกระแสน้ำไหลรุนแรง (ในฤดูน้ำหลาก) ให้งดการทำกิจกรรม 6.) ผู้ประกอบการต้องดูแลให้นักท่องเที่ยวแต่งกายมิดชิดรัดกุมหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม หรือเมื่ออยู่ในที่ชุมชนที่ไม่สถานที่จัดกิจกรรมล่องหาวงยาง 7.) ผู้ประกอบการต้องดูแลไม่ให้มีการทิ้งขยะ หรือของเสียต่าง ๆ ลงในลำน้ำหรือข้างทาง 8.) ต้องไม่จัดกิจกรรมเสียงดังรบกวนผู้อื่น โดยเฉพาะช่วงที่พักทำกิจกรรมระหว่างการล่องห่วงยาง เช่น กีฬา ปาร์ตี้ หากอยู่ใกล้วัด โรงเรียน ต้องไม่เปิดเครื่องเสียงรบกวน ที่ประชุมได้มอบหมายให้ ททท. พร้อมทีมแม่ฮ่องสอนท่องเที่ยวพลัส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการกำกับติดตามบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง
5.) การเปิดเพลงเสียงดังของสถานประกอบการ พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกติกา และปิดบริการตามเวลา แต่อาจจะมีบางผู้ประกอบการที่เปิดเสียงดัง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการจัดกิจกรรมพิเศษ หรืองาน Event โดยในที่ประชุมได้มอบหมายให้ที่ทำการปกครองอำเภอ ตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมาย
ทั้ง 5 ประเด็นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้สั่งการให้หน่วยงานและผู้ที่ได้รับมอบหมายดำเนินการ และติดตามสถานการณ์ประสานการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะมีการติดตามเป็นระยะ
สำหรับกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ก่อเหตุวุ่นวายกระทบการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่อำเภอปาย นั้น ทางหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายได้ร่วมกันจับกุมดำเนินคดี ปรับ และขอเพิกถอนวีซ่า และส่งกลับประเทศ ตามที่เป็นข่าวไปก่อนแล้ว โดยทางผู้แทนโรงพยาบาลปายได้กล่าวขออภัยที่มีบุคลากรโพสต์ข้อความที่อาจทำให้หน่วยงานต่างๆ อาจได้รับผลกระทบ ซึ่งเกิดจากการที่เพจหนึ่งได้นำข้อความจาก Comment ไปลงเพจ อย่างไรก็ตามบุคลากรทางการแพทย์ก็ยังยึดหลักคุณธรรมในการรักษาผู้ป่วยทุกคนอย่างเท่าเทียม ซึ่งในกรณีนี้ทางหน่วยงานด้านการต่างประเทศของนักท่องเที่ยวได้มีการกล่าวขอโทษและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมายังโรงพยาบาลและในพื้นที่แล้ว
นอกจากนี้ ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กำหนดมาตรการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่นักท่องเที่ยว โดยทาง ททท. จะจัดประชุมสร้างความเข้าใจ รวมทั้งจะทำข้อมูล Do and Don’t เผยแพร่สู่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่อไป
(ภาพและข่าว สามารถนำไปเผยแพร่โดยไม่ติดลิขสิทธิ์)
ข่าว – ว่าที่ ร.ต. ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผอ.ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน
ภาพ – นางสาวธนพร หมุดดี เจ้าหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือนักท่องเที่ยว TAC
นายจตุรภณ พัฒนาชาติเจริญกุล พนักงานสนับสนุนด้านความปลอดภัย สนง.ขนส่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน





ใส่ความเห็น