ผู้ประกอบการบทบาทที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน ในสายงานเชฟก็เช่นกัน การเป็นเจ้าของร้านนับเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ รวมถึงสามเพื่อนสนิท ที่มีใจรักในการทำอาหาร จากมิตรภาพสู่การเป็นหุ้นส่วน วันนี้จะพาไปพูดคุยกับเด็กเชฟ “ไอซ์ ฟิว อลิส” เจ้าของร้าน Rumpaan Eatery ศิษย์เก่าสาขาศิลปะและเทคโนโลยีการประกอบอาหาร วิทยาลัยฮอสปิตอลลิตี้ ม.รังสิต ที่เขาว่าเรียนรู้มามากกว่าการเป็นเชฟ

ไอซ์ – กฤตานน ฤทธิ์คำรบ เจ้าของร้าน Rumpaan Eatery เล่าเส้นทางการทำธุรกิจให้ฟังว่า หลังเรียนจบ ม.รังสิต ไปเรียนต่อที่เกาหลีเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมและเก็บประสบการณ์นำกลับมาพัฒนาต่อยอด ช่วงกลับไทยเริ่มทำงานเป็นพนักงานครัวที่ร้านแดก ก่อนร้านจะย้ายสาขาและปิดตัวลง เดินทางในสายอาชีพเชฟมาระยะหนึ่ง คำนึงถึงบั้นปลายของอาชีพที่สุดท้ายคงเป็นเพียงคนทำงาน หรือเป็นคนเก่งคนหนึ่ง ทุกคนมีเป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จ จึงเลือกอีกเส้นทางชีวิต ผันตัวสู่นักธุรกิจ แน่นอนว่าเขายังคงคอนเซ็ปต์การเป็นเชฟ อาหารที่ถูกเสิร์ฟจะต้องผ่านฝีมือของเขา “การคลุกคลีกับอาหาร ความร้อน อุณหภูมิ และความวุ่นวายในครัวยังคงเป็นสิ่งที่ผมรัก”ไอซ์ว่าแบบนั้น นับเป็นความท้าทายของชีวิตที่อยากก้าวไปอีกขั้นของการทำงาน เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่มากกว่าการเป็นเชฟ สู่การเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร “รำพัน” ในปัจจุบัน และคุณยายก็เป็นที่มาของชื่อร้านนี้ เพราะเชื่อว่าทุกคนมีรสชาติในความทรงจำ รสชาติแรกของใครหลายคน

ไอซ์เล่าต่อว่า เกือบทุกมุมมองของชีวิต การเรียนรู้ที่ สาขาศิลปะและเทคโนโลยีการประกอบอาหาร วิทยาลัยฮอสปิตอลลิตี้ ม.รังสิต ให้ประสบการณ์ที่ดี ปฏิเสธไม่ได้ว่าชีวิตการทำงานแตกต่างกับวัยเรียน หากทุ่มเทกับงานมากเท่าไหร่ผลลลัพธ์จะกลับมามากเท่านั้น“เคยมีคุณหมอตั้งคำถามกับผมว่า เป้าหมายในชีวิตคืออะไร? ในจุดที่เรายังเกเรไม่มั่นคง ผมยังคงมีความฝันที่อยากเปิดร้านอาหาร ณ ตอนนั้นความเป็นไปได้ในสายตาคุณหมอคงเป็นศูนย์ ทำให้ผมคิดได้หากจะไปถึงเป้าหมาย เราต้องเริ่มตั้งคำถาม ดังนั้นอย่าลืมที่จะตั้งเป้าหมาย และตั้งคำถามให้กับชีวิตเราอยู่เสมอ” ไอซ์กล่าวแบบนั้น


ฟิว – กวินพัฒน์ เลิศชัยศิรเมธ เจ้าของร้าน Rumpaan Eatery เล่าเส้นทางการทำธุรกิจให้ฟังว่า หลังเรียนจบ ม.รังสิต เก็บประสบการณ์ทำงานในครัวมาสักพัก มีโอกาสได้พูดคุยกับไอซ์ถึงเป้าหมายในสายอาชีพ ที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ จึงตัดสินใจเปิดร้าน Rumpaan ขึ้นมา การร่วมงานกับเพื่อนเป็นอีกมิติการทำงานที่ต่างออกไป จากที่คอยทำตามคำสั่งเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ออกคำสั่ง ต้องช่วยกันวางแผนและบริหารร้านตั้งแต่สั่งวัตถุดิบ จัดร้าน ออกแบบเมนู กระทั่งลงมือทำอาหาร โชคดีที่ ม.รังสิต สอนให้เรียนรู้มากกว่าการเป็นเชฟ คือ Innovative Chef เรียนรู้ทุกกระบวนการทำงาน บริหารจัดการในบทบาทเจ้าของกิจการด้วย ช่วงฝึกงานปีสุดท้ายก่อนเรียนจบเจอมรสุมชีวิตครั้งใหญ่ เกือบทำให้เลิกเดินต่อในสายอาชีพนี้ แต่ด้วยสภาพแวดล้อมทางสังคม เพื่อนที่ดี ทำให้มีกำลังใจและสู้ต่ออีกครั้ง “เชื่อว่าคนเราไม่มีใครเก่งตั้งแต่เริ่มต้น การฝึกฝนและประสบการณ์ จะช่วยพลักดันให้เราทำในสิ่งที่รักหรือสิ่งที่มีประโยชน์ต่อไปในอนาคต”ฟิวกล่าวแบบนั้น

อลิส – อริสา สัตย์ซื่อ เจ้าของร้าน Rumpaan Eatery เล่าเส้นทางการทำธุรกิจให้ฟังว่า หลังเรียนจบมีโอกาสไปฝึกงานที่ประเทศอเมริกากับโครงการของ ม.รังสิต ก่อนกลับมาทำงานประจำที่ประเทศไทย เธอเป็นคนหนึ่งที่อยากเดินทางตามฝันของตัวเอง ไอซ์เปิดโอกาสให้เธอได้แสดงศักยภาพการทำขนมที่ฝึกฝนมาตลอด ปัจจุบันจึงเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน Rumpaan Eatery ผู้รังสรรค์ของหวานที่อร่อยและน่าประทับใจให้กับลูกค้า การตัดสินใจลาออกจากงานประจำไม่ใช่เรื่องง่าย แน่นอนว่ามีความเสี่ยง แต่เธอสามารถจัดการและกล้าเผชิญความเสี่ยงนั้น เพราะเชื่อว่าความสุขและประสบการณ์ที่ได้รับหลังจากนี้คงดีไม่มากก็น้อย การทำขนมยังเป็นความหลงไหลและความรักของเธอ การได้ทำงานร่วมกับเพื่อนฝึกให้เธอเป็นคนใจเย็น ต้องแคร์ความรู้สึกคนรอบข้างและร้านนี้ให้มากขึ้น ในบทบาทเจ้าของร้านพวกเขาต้องยอมรับความเสี่ยงอยู่เสมอ ภาระและความรับผิดชอบต่าง ๆ ที่มากมายในวัย 25 ปี เป็นก้าวที่ท้าทายในชีวิตของเธอ
“อนาคตเราไม่สามารถคาดเดาได้ อาจทะเลาะกันและแยกทางกันไปเมื่อไหร่ก็ได้ สุดท้ายคือการที่เราต้องโตขึ้นในทุกสถานการณ์ แต่เชื่อว่าเป็นเส้นทางที่สวยงามของพวกเราทุกก้าวเสมอ ชีวิตไม่ได้ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่าย ไม่ได้ยาวแต่ก็ไม่สั้น ถ้าอยากทำอะไรเราคงต้องลงมือทำเลย”อลิสทิ้งท้ายไว้เช่นนั้น

เป็นกำลังใจให้กับทั้งสามคนสู่เป้าหมายที่ฝันไว้ สำหรับใครที่มีโอกาส อยากลิ้มลองอาหารสไตล์โฮมมี่ ทั้งอารหารคาวและหวานของศิษย์เก่าม.รังสิต สามารถไปพบกันได้ที่ร้าน Rumpaan Eatery หมู่บ้านเมืองเอก ซอยเอกประจิม 2/1
******************





ใส่ความเห็น